< ย้อนกลับ หน้าหลัก
ตระกูลเดียวกันกับหญ้าแพงกูล่า ขึ้นง่าย รอบตัดไว ทนแล้ง ทนน้ำขัง ปลูกได้ทั้งปี
เหมาะสมกับพื้นที่ดินร่วนปนทราย
หญ้าแพงโกล่า
เป็นหญ้าอายุที่มีหลายปี ต้นกึ่งตั้งกึ่งเลื้อย ลำต้นเล็ก ไม่มีขน ใบเล็กเรียวยาว ใบดกอ่อนนุ่ม ทนน้ำท่วมขัง เจริญเติบโตดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะสำหรับปลูกในเขตชลประทาน ผลผลิตน้ำหนักแห้ง 5.0-7.0 ตัน/ไร่/ปี โปรตีน 7-11 เปอร์เซ็นต์ โดยหญ้าแพงโกล่าเหมาะที่จะใช้เป็นอาหารของ วัว ควาย ม้า แพะ แกะ กระต่าย
หญ้าเนเปียร์ปากช่อง1 (พันธุ์ลูกผสม)
ชื่อสามัญ : Pak Chong 1
ชื่อวิทยาศาสตร์: P. purpureum x pennisetum americanum
พันธุ์ดั้งเดิม : หญ้าเนเปียร์ยักษ์ และหญ้าไข่มุก
หน่วยงานพัฒนาสายพันธุ์ : ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ โคราช กรมปศุสัตว์
ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูงใหญ่ เหมือนเนเปียร์ยักษ์ ลำต้นอวบ และออกเขียวอ่อน ใบ และลำต้นไม่มีขน ลดการคันขณะเก็บเกี่ยว ให้ผลผลิตเหมือนกับหญ้าเนปียร์ยัก ผลผลิตต่อไร่สูง 10-60 ตัน/ไร่/ปี หรือมากกว่า (ตัดหลายรุ่นต่อปี) ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน และน้ำ
ประโยชน์หญ้าเนเปียร์
1. ใช้ปลูกเพื่อเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะโคเนื้อ โคนม และกระบือ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการให้กินสด และการทำหญ้าหมัก
2. ใช้เป็นชีวะมวลสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า
3. ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน
4. ลำต้นใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ
5. ลำต้นนำมาสับ และอัดเป็นแท่งสำหรับเป็นเชื้อเพลิงหุงหาอาหาร
6. หญ้าเนเปียร์มีโปรตีนสูง และให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าหญ้าทุกสายพันธุ์ เหมาะสำหรับใช้เป็นอาหารสำหรับวัวขุน โคขุนและวัวชนทุกระยะ
คุณค่าทางโภชนาการหญ้าเนเปียร์ (อายุ 45 วัน : 100 กรัม)
– พลังงาน : 175.40 แคลอรี่
– โปรตีน : 7.32 กรัม
– ไขมัน : 0.99 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต : 34.32 กรัม
– ความชื้น : 8.68 กรัม
– เถ้า : 11.51 กรัม
– กาก : 37.21 กรัม
– แคลเซียม : 247.5 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส : 203.9 มิลลิกรัม
– เหล็ก : 12.4 มิลลิกรัม
ปริมาณโปรตีนที่พบ นั่นหมายถึงว่า มีโปรตีนสูงถึง 7.32%
หญ้ากินนี่สีม่วง
เป็นหญ้าที่มีอายุหลายปี ลักษณะเป็นกอตั้งตรงแตกกแดีใบดก ทนต่อสภาพร่มเงาได้ดี เหมาะสำหรับปลูกบนพื้นที่ดอนมีดินเหนียวจนถึงดินทรายและในพื้นที่เขตชลประทาน ปลูกขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและหน่อพันธุ์ตอบสนองต่อการให้น้ำและปุ๋ยได้ดี ให้ผลผลิตน้ำหนักแห้งประมาณ 2.5 - 3 ตันต่อไร่ต่อปีมีโปรตีนประมาณ 8 - 10 เปอร์เซนต์ ของน้ำหนักแห้ง
การปลูก
ปลูกโดยการหว่าน อัตรา 1-2 กิโลกรัมต่อไร่ หรือโรยเมล็ดเป็นแถวระยะหว่างแถว 50 เซนติเมตร ไม่ควรกลบเมล็ด ส่วนการเพาะกล้าใช้เมล็ด 1 กิโลกรัม เพาะในพื้นที่ 200 ตารางเมตรเมื่ออายุต้นกล้า 1 เดือนให้ย้ายปลูกหลุมละ 3 ต้น ระยะปลูก 50x50 เซนติเมตรจะปลูกได้ 3 ไร่ หรือใช้แยกหน่อจากต้นเก่ามาปลูกใช้ระยะปลูก 50x50 เซนติเมตรเช่นกัน แต่ต้นหญ้าจะโตช้ากว่าการปลูกด้วยต้นกล้า
การใส่ปุ๋ย
ก่อนปลูกควรมีการใส่ปุ๋ยรองพื้นสูตร 15-15-15 ในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ นอกจากนี้อาจมีการใส่ปุ๋ยคอกร่วมด้วยเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน หลังการตัดทุกครั้งควรใส่ปุ๋ยยูเรียในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่
การกำจัดวัชพืช
กำจัดวัชพืชครั้งแรก 3 - 4 สัปดาห์หลังปลูก และหากมีวัชพืชขึ้นมากอาจกำจัดวัชพืชครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 2 เดือน
การใช้ประโยชน์
การตัดหญ้ากินนีสีม่วงเพื่อนำให้สัตว์กินควรตัดครั้งแรกเมื่อหญ้ามีอายุ 60 วัน หลังจากนั้นจึงจะทำการตัดทุกๆ 30-40 วัน โดยตัดสูงจากพื้นดิน 10-15 เซนติเมตร เหมาะสำหรับใช้เลี้ยงโค กระบือในรูปหญ้าสด,ทำหญ้าหมักหรือปล่อยสัตว์เข้าแทะเล็มได้