Winning Stratagems
เหมาะที่จะใช้เมื่อฝ่ายเราเข้มแข็ง ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอ มีเวลาเพียงพอที่จะแยกแยะจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อดำเนินกลยุทธ์ ดังนั้น ก่อนออกรบ จะมีความมั่นใจที่จะชนะศึก
กลยุทธ์ที่ 1 ปิดฟ้าข้ามทะเล
เทพเจ้ากวนอู เสียเมืองเกงจิ๋ว และพ่ายแพ้ด้วยกลปิดฟ้าข้ามทะเล
คิดว่าเตรียมพร้อมจึงประมาท เห็นบ่อยเลยไม่สงสัย มืดอยู่ในสว่าง ไม่ได้อยู่ตรงข้ามสว่าง สว่างมากก็มืดมาก
"ในขณะที่ตนคิดว่าเตรียมพร้อมแล้ว ความมุ่งมั่นในการต่อสู้จะผ่อนคลายสิ่งที่ได้พบเห็นบ่อย ๆ จึงมักจะไม่สงสัยอีก กลยุทธ์ลับต้องแฝงเร้นอยู่ในสิ่งที่เปิดเผย ดังนั้น พวกเราควรจะเรียนรู้ที่จะค้นพบแผนการลับมาก ท่ามกลางสภาพการณ์ที่เปิดเผยมาก"
การแข่งขันทางการตลาดที่รุนแรง ผู้ประกอบการควรมีแนวความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความสามารถสร้างภาพลวง ปิดบังจุดประสงค์แนวทางทำธุรกิจของตน เช่นนี้จึงจะสามารถชิงเป็นฝ่ายรุก ช่วงชิงโอกาสที่มีค่านี้ได้
"ปิดฟ้าข้ามทะเล" เป็นกลยุทธ์หนึ่งของการแสดงเท็จ ปิดบังจริง เป็นวิธีการแสร้งทำในการต่อสู้
"ข้ามทะเล" เป็นเป้าหมาย เห็นจนชินจะไม่มองเห็นบ่อย ๆ จะไม่สงสัย นี่เป็นจุดบกพร่องของคนเราที่เป็นกันบ่อย ในการมองเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคม
การดำเนินกลยุทธ์จริง ต้องจำไว้ว่า
สร้างภาพลวงของ "ปิดฟ้า" ได้สำเร็จ ใช้ทุกวิธีเพื่อปิดบังฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้พวกเขาต่างรู้แผนการแท้จริงของเรา หรือลวงให้ประมาท
มองโอกาส "ข้ามทะเล" ให้ถูกต้องแม่นยำ โจมตีในช่วงที่ฝ่ายตรงข้ามยังค้นไม่พบจุดประสงค์ของฝ่ายเรา เราจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"การทำธุุรกิจต้องตระหนักว่าการรักษาความลับของกิจการนั้นสำคัญยิ่ง ถ้าเริ่มต้นก็ทำเรื่องราวเกรียวกราว ฝ่ายตรงข้ามก้จะสนใจและตื่นตัวเพิ่มแนวทางป้องกัน ทำให้การดำเนินกลยุทธ์ของฝ่ายเราพบอุปสรรคเพิ่มขึ้น การใช้กลยุทธ์นี้ต้องถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว อย่าได้อืดอาด เมื่อโอกาสสุกงอมให้โจมตีโดยเร็ว การคุ้นเคยหรือรู้อุปนิสัย รู้จักลักษณะพิเศษทางจิตใจ และทราบรูปแบบพฤติกรรมของฝ่ายตรงข้าม จะมีส่วนช่วยกำหนดและดำเนินกลยุทธ์ เป็นการรับประกันผลสำเร็จของฝ่ายเรา"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 1 : ค้นหาระดับราคาที่เหมาะสม [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 2 : ปิดบังตน เข้าใจฝ่ายตรงข้าม [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 3 : ขายควบ แฝงโอกาสทางธุรกิจ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 2 ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว
ขงเบ้ง ใช้กลล้อมเวยช่วยจ้าว เข้ายึดเมืองฮันต๋ง
ศัตรูรวมมิสู้ศัตรูแยก ศัตรูแจ้งมิสู้ศัตรูมืด
"การโจมตีศัตรูที่รวมกำลังกัน มิสู้แยกกำลังของศัตรูออก แล้วจึงค่อยโจมตี การนำทหารบุกประจันซึ่งหน้า มิสู้อ้อมทางเพื่อเข้าโจมตี โจมตีในขณะศัตรูไม่ทันตั้งตัว เป็นวิธีรบที่จะสยบศัตรูด้วยการตลบหลัง"
หลบเลี่ยงจุดเข้มแข็งของศัตรู โจมตีจุดอ่อน ตรึงศัตรูไว้หรือโจมตีจุดตาย คุกคามหรืออ้อมไปโจมตีตลบหลัง บีบบังคับให้ศัตรูจำต้องละทิ้งเป้าหมายเดิม ทำให้อันตรายของฝ่ายเรากลับสามารถแก้ไขได้และรอดพ้นจากการถูกโจมตี
ธุรกิจทุกแขนงครอบครองทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง ในด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิค คุณภาพผลิตภัณฑ์ ความมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ เกียรติภูมิ และกำลังเงิน ถ้าค้นพบความแตกต่างดังกล่าวได้ เราจะสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งจะรับประกันความสำเร็จให้เราได้
บ่อยครั้งที่ผู้ประกอบการทำผิดพลาดด้วยการพุ่งสนใจเฉพาะจุดมากเกินไป ทำให้เขาตกอยู่ในวังวนความคิดเดิม ๆ ส่งผลให้ธุรกิจอยู่ในสภาพลำบาก จะเป็นการดีถ้าลองเปลี่ยนมุมมอง การค้นพบสิ่งใหม่เฝ้ารอเราอยู่ เมื่อเราได้ปรับใช้ความคิดใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ในการแข่งขัน ถ้าเราชี้ไปทางซ้ายแต่กลับไปทางขวา อ้อมเส้นทางให้ยอกย้อน ใช้ถอยเป็นรุกจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามพะว้าพะวัง ดูแลไม่ทั่วถึง ท้ายสุดจึงจำต้องประนีประนอม ในสนามธุรกิจที่ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ซึ่งด้อยกำลังเงิน จำต้องเป็น "ปลาเล็ก" ต่อกรกับนายทุนใหญ่ จึงควรใช้ความว่องไวและความสามารถพิเศษอย่างเต็มที่พลิกแพลงตนเองอย่างรวดเร็ว และสร้างตลาดเฉพาะส่วนของตนเอง
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว การ "ล้อม" มีเป้าหมายอยู่ที่ "การเข้าไปช่วย" ซึ่งการจะช่วยได้สำเร็จนั้น ต้องหันเหความสนใจและเบี่ยงเบนกำลังของศัตรูไปทางอื่น"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 4 : หลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งหน้า สร้างข้อได้เปรียบใหม่ [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 5 : หลบเลี่ยงจุดเข้มแข็งของศัตรูและโจมตีจุดอ่อน [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 6 : ละทิ้งการโต้แย้ง มุ่งสู่ทางเลือกที่ดีที่สุด [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 3 ยืมดาบฆ่าคน
จิวยี่ยืมดาบฆ่าคน
เมื่อศัตรูปรากฏแน่ชัด แต่มิตรยังลังเล จึงควรชักนำให้มิตรไปฆ่าศัตรู โดยฝ่ายตนเองไม่ต้องออกแรง
"สถานการณ์ของศัตรูแน่ชัดแล้ว แต่ท่าทีของพันธมิตรเรายังไม่แน่นอน จึงควรขอยืมความช่วยเหลือ ใช้กำลังของพันธมิตรเราไปทำลายศัตรู สงวนกำลังของฝ่ายตน"
ตนเองไม่ออกหน้าโดยตรง แต่ใช้หรือยืมกำลังของผู้อื่นทำให้บรรลุเป้าหมาย ผู้ประกอบการที่เฉลียวฉลาดควรเชี่ยวชาญการยืมกำลังของผู้อื่น การยืมมีหลายรูปแบบ ยืมดาบ(ยืมทรัพย์สิน ยืมกำลังทหาร ยืมกลยุทธ์ ฯลฯ) สามารถทำได้ทั้งเปิดเผยและปิดบัง ทั้งข่มขู่และลวงล่อ
ในสงครามธุรกิจ เราสามารถหยิบยืมปัจจัยภายนอกเพื่อมีชัยเหนือคู่แข่งและยึดครองตลาดเป้าหมาย สำคัญที่สุดคือ จงอย่าลดทอนกำลังของฝ่ายตนและบั่นทอนตัวเอง
มีสิ่งให้ยืมได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน ความชำนาญ ทักษะ ความคิดเห็น ความโด่งดัง และอิทธิพล
ผู้เชี่ยวชาญการยืม แม้ตนเองมีกำลังไม่มาก แต่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว การยืมอย่างแยบยลจะเปิดโอกาสอันจำกัดทางธุรกิจให้กว้างขึ้น
การพัฒนาตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นสิ่งสำคัญต่อบริษัทที่จะเติบโตต่อเนื่องอย่างประสบผลสำเร็จ เทคโนโลยีการผลิตที่ปรับปรุงให้ก้าวหน้าจะช่วยให้เราประหยัดต้นทุนและแซงหน้าเหนือคู่แข่ง
ความคิดเห็นเพิ่มเติม "การใช้กลยุทธ์นี้อย่างเหมาะสมจะเพิ่มพูนกำลังให้แก่ธุรกิจที่อ่อนด้อยกว่า จนกลายเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในตลาดธุรกิจ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 7 : ยืมมือผู้มีชื่อเสียงแผ่อิทธิพลเข้าตลาด [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 8 : สร้างสรรค์อย่างแยบยล จะได้รับผลที่ฮือฮา [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 9 : ยืมประวัติศาสตร์เพื่อตกแต่งฉากในร้านอาหารให้แปลกใหม่ [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 10 : ยืมคนดังช่วยการโฆษณา [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 4 ใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อย
ลกซุน รอซ้ำวุย ที่กำลังเปลี้ย
ทำให้ข้าศึกตกอยู่ในภาวะลำบาก ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีออกรบ แต่สามารถใช้วิธี "แข็งจะสูญเสีย อ่อนจะได้ประโยชน์"
"การบีบให้ข้าศึกตกอยู่ในภาวะลำบาก ไม่จำเป็นต้องออกรบโจมตีโดยตรง สามารถใช้การตั้งรับอย่างเข้มแข็งเพื่อบั่นทอนกำลังของฝ่ายตรงข้าม เมื่อข้าศึกเหนื่อยล้า ทำให้ศัตรูจากเข้มแข็งกลายเป็นอ่อนแอ ส่วนฝ่ายเราจากอ่อนแอกลายเป็นเข้มแข็ง จากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุก"
ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นมัวยุ่งอยู่กับการขยายตัว เราต้องทุ่มความพยายามในการดึงศักยภาพที่ซ่อนแฝงอยู่ในตลาด แทนที่จะคอยค้นหาโอกาสที่อยู่ไกลเกิน มีคำกล่าวว่า "หลีกเลี่ยงการแข่งขันซึ่งหน้าคือหนทางที่ปราดเปรื่องที่สุด" วิธีใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่การรออย่างเกียจคร้านแล้วเอาแต่ถอยตั้งรับตลอดเวลา
ประการแรก ต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าฝ่ายตรงข้ามและมองหาความมั่นคงหรือสภาพแวดล้อมที่แข็งแรงเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ตนเอง แล้วจึงเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการโจมตี เวลาที่เราเข้มแข็งที่สุดและฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอที่สุด เมื่อออกรบเราจักได้ชัยชนะ
ในตลาดที่มีการแข่งขันกันดุเดือด เมื่อผู้ประกอบการจะกำหนดเป้าหมาย ขอบเขต และอนาคตของกิจการ ต้องไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่วแล่น เขาจะต้องแข่งขันด้วยการประมาณความสามารถของบริษัทและดำเนินการตามความเหมาะสมแก่กำลังของตนเอง
ความคิดเห็นเพิ่มเติม "โลกของสนามธุรกิจมีความผันผวนไม่แน่นอน ผู้ประกอบการต้องมีสติตลอดเวลา ต้องศึกษาและวิเคราะห์ภาวะตลาดอย่างสุขุมรอบคอบก่อนจะกำหนดเป้าหมายของแผนธุรกิจอย่างระมัดระวัง สะสมกำลังเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และรุกอย่างกล้าหาญเมื่อเวลาสุกงอม แล้วคุณจะกำชัยชนะทั้งหมดได้ในการทำศึกเพียงครั้งเดียว"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 11 : หลีกเลี่ยงความลึกล้ำของศัตรูและโจมตีภายหลัง [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 12 : ครอบครองสินค้าหายาก รอผู้ซื้อมาหาอย่างสงบ [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 13 : เลียนแบบแล้วดัดแปลงใหม่ให้เหนือกว่าผลิตภัณฑ์เดิม [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 5 ฉวยโอกาสไฟไหม้ ปล้นชิง
ตั๋งโต๊ะ ตีชิงตามไฟ
ข้าศึกมีภัย ฉกฉวยโอกาสเอาประโยชน์ ใช้ความแกร่งพิชิตอ่อน
"เมื่อข้าศึกเผชิญวิกฤติหนัก ฉวยประโยชน์จากสถานการณ์ยกทัพเข้าพิชิตศึก เป็นโอกาสที่จะทำลายศัตรูได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ข้าศึกจะวุ่นวายสับสนภายใต้สามสภาวการณ์คือ ความทุกข์ยากภายใน ภัยรุกรานจากภายนอกและความลำบากจากทั้งภายนอกและภายใน ฉกฉวยโอกาสนี้เข้าบุกโจมตี ย่อมคว้าชัยชนะได้สำเร็จ"
กุญแจสำคัญ ในการปรับใช้กลยุทธ์นี้ คือ
เชี่ยวชาญในการค้นพบและยึดกุมโอกาสทางธุรกิจ ค้นหา "ไฟไหม้บ้าน" ให้เจอเพื่อช่วงชิง ภาวะตลาดผันผวนตลอดเวลายากจะคาดเดา จึงเกิด "ไฟ" ได้ทุกเมื่อ
เมื่อเราสามารถใช้ภาวะตลาดให้เป็นประโยชน์ได้แล้ว จงลงมืออย่างไม่ลังเลและ "ช่วงชิง" ทันที ความรวดเร็วสำคัญมากเมื่อทำสงคราม และในสงครามธุรกิจสมัยใหม่ การใช้เวลาทุกนาทีให้ได้เต็มที่เป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวด อย่าชักช้า !
ธุรกิจควรสร้างเครือข่ายข้อมูลทางการตลาดที่ตอบสนองได้ฉับไว รวบรวมข่าวสารให้กว้างขวางและวิเคราะห์ตลาดให้ถูกต้อง เล็งเป้า "ต้นเพลิง" และวินิจฉัยความร้อนแรงของไฟนั้นให้แม่นยำ
ความคิดเห็นเพิ่มเติม "ผู้เข้มแข็งใช่จะแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา และผู้อ่อนแอก็ใช่ว่าจะด้อยกำลังเสมอไป ผู้ประกอบการต้องสามารถค้นพบโอกาสที่จะผงาดขึ้นมา เมื่อฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนจากเข้มแข็งเป็นอ่อนแอ และไม่ลังเลที่จะลงมือเพื่อบรรลุถึงชัยชนะ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 14 : มีดวงตาแห่งปัญญา เห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 15 : ศึกษาข่าวสาร (สัญญาณ) และปรับใช้ให้เหมาะสม [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 16 : เคลื่อนไหวโจมตีโดยเร็วพลัน [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 6 ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม
ขงเบ้ง ใช้กลส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม ทะลายค่าย เฮ็กเจียว
ทำให้ข้าศึกสับสน ไม่อาจคาดเดาได้ รุกโดยใช้ความลังเลของศัตรู
"สร้างภาพลวง หลอกล่อให้ข้าศึกสับสนสูญเสียการควบคุมและตัดสินใจไขว้เขว ใช้กลยุทธ์ทวนกระแสน้ำเพื่อพิชิตชัยโดยข้าศึกคาดไม่ถึง"
"ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม" คือการสร้างภาพลวง รบกวนการเห็นการฟังของศัตรูให้ตัดสินใจผิดพลาด จากนั้นจึงฉวยโอกาสที่ศัตรูยังไม่ทันตั้งตัว รบรุกเอาชนะ
"ส่งเสียงบูรพา" เป็นกลลวง ส่วน "โจมตีประจิม" เป็นเรื่องจริง ทำให้ศัตรูหลงผิดคิดว่าเท็จเป็นจริง และหลงไปมัวแต่ใส่ใจในสิ่งลวงนั้น
ในการแข่งขันทางการตลาด เรื่องราวความสัมพันธ์ต่างสลับซับซ้อน คู่แข่งทั้งในที่แจ้งและที่ลับต่างสอดส่องซึ่งกันและกัน ท่าทีทุกฝีก้าวของเราย่อมจะเป็นที่สนใจ ใช้กลยุทธ์นี้หลอกล่อคู่ปรับอย่างแยบยลให้เขาตัดสินใจผิดพลาดและละเลยการป้องกัน ทำให้เราได้โอกาสรุกโจมตีโดยคู่แข่งไม่ทันรู้ตัว
"ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม" ปรับใช้กับการโฆษณา ช่วยการศึกษาและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ ให้แจกแจงลักษณะเด่นพิเศษทุกอย่างของผลิตภัณฑ์ในการโปรโมท ไม่เผยจุดแข็งของสินค้าออกไปตรง ๆ แล้วใช้ความต้องการของผู้บริโภคที่สนใจในจุดเด่นของสินค้าพุ่งเข้าหาจุดสำคัญ จากมุมนี้ให้บอกอย่างชัดเจนว่าทำไมผลิตภัณฑ์ของเราจึงดีกว่าของคู่แข่ง
บนโต๊ะเจรจาธุรกิจ ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อหันเหความสนใจของคู่ค้าไปสู่สิ่งที่เราไม่ใส่ใจ ใส่สีตีไข่ให้ประเด็นรอง ดูเหมือนสำคัญยิ่งยวด แล้วปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบประเด็นนี้บ้างเล็กน้อย ส่วนประเด็นหลักที่สำคัญจริง ๆ ให้แตะเพียงผิวเผิน ทีท่าดังว่านี้ กลับจะชวนใจให้ฝ่ายตรงข้ามยอมรับข้อเสนอของเราได้ง่าย
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"พ่อค้าเมื่อจะซื้อเข้า กลับแสดงว่าจะขายออก โปรโมทสินค้ารอง เมื่อเรามุ่งจะขายสินค้าหลัก พลิกแพลงปะปนจริงและเท็จอย่างชาญฉลาด"
"เมื่อเราทำธุรกิจต้องประลองเชาวน์ปัญญากับคู่แข่ง บางครั้งต้องได้แรงบันดาลใจเข้าช่วย กลยุทธ์นี้สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการช่วงชิงความได้เปรียบ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามตัดสินใจและทำผิดพลาด"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 17 : ยึดมั่นการตลาดที่ยอกย้อน ท้ายที่สุดประสบผลสำเร็จ [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 18 : ชักนำให้คู่แข่งขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้เราได้ล้างสต็อก [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 19 : พัฒนาเป็นธุรกิจล้างฟิล์มและอัดรูป เพื่อบรรลุเป้าหมายการขาย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 10 : ยืมคนดังช่วยการโฆษณา [คลิกดู]
ปิดฟ้าข้ามทะเล
ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว
ยืมดาบฆ่าคน
ใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อย
ฉวยโอกาสไฟไหม้ ปล้นชิง
ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม
ในไม่มี ทำให้มี
ลอบข้ามเฉินชัง
อยู่อีกฟากฝั่งมองดูไพ่
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ต้นหลี่ตามแทนต้นท้อ
จูงแพะติดมือ
ตีหญ้าให้งูตื่น
ยืมซากร่างคืนวิญญาณ
ล่อเสือออกจากภูเขา
จะจับแต่แสร้งปล่อย
โยนอิฐล่อหยก
จับโจรให้จับตัวหัวหน้า
ดึงฟืนใต้กระทะ
จับปลาในน้ำขุ่น
จักจั่นทองลอกคราบ
ปิดประตูจับโจร
คบไกล โจมตีใกล้
ยืมเส้นทางโจมตีเมืองกว๋อ
ขโมยคานเปลี่ยนเสา
ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย
แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า
ขึ้นบ้านดึงบันได
ออกดอกบนต้น
พลิกจากแขกเป็นเจ้าบ้าน
สาวงาม
เมืองว่างเปล่า
ซ้อนกล
ทรมานตนเอง
ลูกไข่
หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
< ย้อนกลับ หน้าหลัก