Proximate Stratagems
เหมาะที่จะใช้เมื่อสองฝ่ายมีกำลังพอ ๆ กัน ในขณะที่หลอกล่อศัตรู ก็ยืมใช้สถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตนไปพร้อมกัน แล้วค่อย ๆ เอาชนะ
กลยุทธ์ที่ 25 ขโมยคานเปลี่ยนเสา
เทียหยก ใช้อุบายลักขื่อเปลี่ยนเสา
ทำให้กองทัพพันธมิตรเปลี่ยนรูปแบบการรบบ่อย ๆ ซึ่งจะทำให้กำลังหลักของพวกเขาอ่อนแอ เมื่อพวกเขาอ่อนกำลังลง ให้ยึดครองเอาไว้คล้ายกับการดึงล้อรถม้าเพื่อควบคุมทิศทาง
กลยุทธ์ "ขโมยคานเปลี่ยนเสา" ใช้กันอย่างกว้างขวางในสนามการค้า หน่วยธุรกิจต่าง ๆ เปลี่ยนชื่อแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ ปรับโฉมหีบห่อบรรจุภัณฑ์ใหม่ และปรับปรุงกลยุทธ์การส่งเสริมการขาย เพื่อปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมและนิสัยการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หน่วยธุรกิจเหล่านี้ศึกษาแนวโน้มใหม่ ๆ เพื่อค้นหาโอกาส และอาจจะต้องปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับรสนิยมใหม่ แล้วจึงเปิดตัวอีกครั้ง "ตลาดสามารถขยายตัวได้จากความพยายามฟื้นฟูผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง"
ผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันที่ประกอบและบรรจุหีบห่อด้วยวิธีต่างกันสามารถสร้างกำไรงามได้อย่างน่าประหลาดใจ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นที่นิยมในกลุ่มเป้าหมายหนึ่งอาจเป็นที่ชื่นชอบสำหรับกลุ่มเป้าหมายอื่นก็ได้
เมื่อใช้กลยุทธ์นี้อย่าทำผิดจรรยาบรรณ อย่าทำร้ายผลประโยชน์ของผู้บริโภค และอย่าอาศัยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เพราะในที่สุดแล้วจะเป็นไฟย้อนกลับมาเผาตัวเอง และเราต้องทุกข์ทรมานกับความสูญเสียแสนสาหัส
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"รูปโฉมใหม่ บรรจุภัณฑ์ใหม่ และราคาใหม่ พิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพจริง"
"เมื่อจะใช้กลยุทธ์นี้ต้องยืดหยุ่นพลิกแพลงให้เป็น ปรับเปลี่ยนคลื่นความคิดของตัวเองเสียใหม่ และค้นหาความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความต้องการให้ตลาด อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้เล่ห์กลสกปรกเด็ดขาด"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 68 : เลียนแบบผลงานที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์เนมระดับโลก [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 69 : ผลิตภัณฑ์เดิมในบรรจุภัณฑ์ใหม่ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 26 ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย
สุมาอี้ ชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหว
ใหญ่รุกรานเล็ก เตือนและหลอกล่อ รับมือท่ามกลางความแข็งแกร่ง ยอมเสี่ยงจะราบรื่น
"จะสร้างอำนาจบารมีและให้ได้มาซึ่งอำนาจ ควรใช้การเตือน การข่มขู่และการแสดงออกที่เข้มแข็ง จะสามารถทำให้คนจำนวนมากสนับสนุนการใช้วิธีการที่เด็ดขาดอย่างเหมาะสมสามารถทำให้คนหมู่มากยอมสยบ"
ในการแข่งขันทางธุรกิจไม่อาจชี้ความบกพร่องของคู่แข่งขันได้โดยตรง ต้องใช้กลยุทธ์ "ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย" เพื่อแสดงพลังของตนเอง เป็นวิธีที่นุ่มนวลในการชี้ข้อบกพร่องของคู่แข่งเมื่อเทียบกับตัวเรา แน่นอนว่าการวิพากษ์วิจารณ์ทางอ้อมนี้ต้องทำด้วยท่าทีที่เหมาะสมและอยู่บนฐานของข้อเท็จจริง อย่าใส่สีตีไข่ให้เรื่องราว แสดงออกอย่างโปร่งใสว่าเราโดดเด่นเหนือคู่แข่งจริง ๆ
ส่งคำเตือนถึงคู่แข่งที่ด้อยกว่าและไร้จริยธรรมเพื่อยับยั้งคู่ต่อสู้รายอื่น ๆ ไม่ให้กระทำการที่ไม่ดีแบบเดียวกัน แต่เมื่อต้องต่อกรกับความผิดพลาดและจุดบกพร่องของคู่ปรับที่แข็งกว่า การพาดพิงแบบอ้อมค้อมสามารถใช้เป็นสิ่งเตือนใจและเป็นเครื่องมือสกัดกั้นได้ จงหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งหน้า
การใช้กลยุทธ์ "ชี้ต้นหม่อนด่ต้นฮ๋วย" ภายในองค์กรเพื่อสร้างการแข่งขันและโอกาสก็คือการพลิกแพลงใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งมักจะเป็นองค์กรที่กล้าแกร่งพร้อมจะรุกไล่ การประสานเทคนิคการบริหารให้เข้ากันกับกลยุทธ์นี้จะทำให้เราบรรลุผลเป็นสองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"เมื่อคู่แข่งใช้วิธีการนอกกฏเกณฑ์ที่ยอมรับไม่ได้ เราต้องใช้หนทางต่าง ๆ ยับยั้งให้ได้"
"วิธีการที่ประนีประนอมที่สุด มักจะใช้ได้ผลที่สุดเช่นกัน"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 70 : การเปรียบเทียบสินค้า น่ากลัวกว่าการไม่รู้จัก [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 71 : ต้นตำรับ แพ้ของเลียนแบบ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 27 แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า
เล่าปี่ ตกใจเสียงฟ้าผ่า แสร้งทำบอแต่ไม่บ้า
ภายใต้สถานการณ์คับขันและไม่ชัดเจน ให้แสร้งทำโง่เขลาไร้ความสามารถ ไม่ควรอวดรู้ ให้เตรียมแผนการไว้ในใจ ดุจดังอสนีบาตที่แฝงกายในฤดูหนาวเพื่อรอคอยโอกาสสำแดงศักดา
กลยุทธ์ "แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า" มุ่งหมายให้เราแสร้งโง่ขณะแอบซุ่มวางแผน ผู้ดำเนินกิจการต้องรักษาความลับเรื่องกลยุทธ์ทางธุรกิจ และไม่ตื่นเต้นตามสิ่งล่อใจ จนกระทำการอย่างหุนหันพลันแล่น จงรอคอยโอกาสที่ดีของตน โจมตีและเอาชนะคู่ต่อสู้โดยไม่ให้รู้ตัว
เมื่อตกอยู่สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย ลวงคู่แข่งให้หลงทางและรอคอยโอกาสดี ๆ
ขอให้สุขุมใจเย็นและคอยมองหาโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่ในตลาด แกล้งทำโง่เพื่อปกป้องแผนงานหนึ่งและซุ่มดำเนินการไป ขณะเดียวกันก็คอยกันคู่แข่งไม่ให้ล่วงรู้แผนงานนั้น ซึ่งจะช่วยให้บรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ทำสมองให้แจ่มใสและฝึกการตัดสินใจให้ดี"
"ค้นหาปัจจัยที่จะรักษาให้ธุรกิจเข้มแข็ง แม้จะดูเหมือนไม่ใช่โอกาสอันเหมาะสมที่จะดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่จงทำต่อไปตราบเท่าที่ความคิดนั้นถูกต้อง"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 72 : เผชิญการยั่วยุอย่างสงบและใจเย็น [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 73 : ซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์เล็กน้อย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 74 : พูดในมุมต่างจากที่คิด เพื่อดึงความสนใจ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 28 ขึ้นบ้านดึงบันได
อุยเอี๋ยน รอดเพราะกลขึ้นบ้านชักบันได
จงใจเผยจุดอ่อนให้ข้าศึกเห็น แสร้งให้ความสะดวกแก่ศัตรู หลอกล่อชักนำให้ข้าศึกหลงเข้ามาในเขตของฝ่ายเราแล้วตัดกำลังสนับสนุน ทำให้ข้าศึกตกอยู่ในวงล้อมที่เราเตรียมการไว้ล่วงหน้า
กลยุทธ์ "ขึ้นบ้านดึงบันได" จะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแผนชักจูงบุคคลเป้าหมายทำได้แยบยลหรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องเข้าใจดีเรื่องจิตวิทยามนุษย์ ในที่นี้ "บันได" หมายถึงเงื่อนไขและหนทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้วจึงตัดช่องทาง นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่แนบเนียน
ถ้าเรามีทรัพยากรจำกัด ต้องอาศัยกำลังสนับสนุนด้านเงินทุน แหล่งสินค้าและด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น ซึ่งก็คือบันไดขึ้นบ้าน เมื่อบรรลุเป้าหมายและมีทรัพยากรพร้อมแล้ว จึงถอนแหล่งสนับสนุนต่าง ๆ นั้น เพื่อให้กิจการมีโอกาสพัฒนามากขึ้น
ในการเข้าถึงลูกค้า ต้องดึงดูดใจด้วยโฆษณาที่มีชีวิตชีวา พร้อมด้วยคำสัญญาที่จะมอบสินค้าและบริการที่ดี ขยายธุรกิจด้วยการให้บริการเป็นเลิศ ราคาเหมาะสมและสินค้ามีคุณภาพ ครั้นเมื่อลูกค้าเชื่อมั่นในบริการชั้นเยี่ยมที่เราเสนอให้แล้ว ก็ถึงเวลาถอน "บันได" ออกไปได้
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"สร้างเงื่อนไขที่เราต้องการ ให้คู่ค้าได้รับรู้ เมื่อคู่ค้าหลงเข้ามาตามแผนการแล้ว ก็ตัดขาดช่องทางสะดวกออกไป"
"สินค้าและบริการเป็นเลิศ ถือเป็นไพ่ที่เหนือกว่าเสมอในทุกธุรกิจ และคงคุณค่าที่สมบูรณ์ และเป็นหลักพื้นฐานในธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลง"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 75 : ปลุกเร้าความอยากรู้อยากเห็น [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 76 : ประโยชน์มากมายของสินค้าราคาเดียว [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 77 : รุกตลาดด้วยการกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้บริโภค [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 29 ออกดอกบนต้น
ต้นไม้ผลิดอก ของ โจโฉ
ยืมสถานการณ์อื่นเพื่อสร้างความได้เปรียบ กำลังที่อ่อนด้อยก็สามารถเปลี่ยนเป็นเข้มแข็งได้ นกห่านป่าสามารถโบยบินบนท้องฟ้าได้เพราะอาศัยปีกสองข้างที่มีขนอ่อนนุ่ม
ถ้าองค์กรมีขนาดเล็ก ผู้ประกอบการไม่อาจหวังให้ชนะคู่แข่งด้วยการปะทะเข้าชน ควรใช้ปัจจัยภายนอกสร้างสถานการณ์ให้ตนเองดูมีพลังเข้มแข็ง เพื่อทำให้คู่แข่งลังเลและกลัว จนไม่กล้าผลีผลาม
ผู้ประกอบการทุกคนต้องเผชิญความท้าทายในการทำกำไรสูงสุด โดยใช้เงินทุนน้อยที่สุด และกลยุทธ์นี้คือคำตอบ
ประเด็นสำคัญของกลยุทธ์ "ออกดอกบนต้น" คือทำอย่างไรจึงจะสร้างภาพลวงได้สำเร็จและใช้ให้เกิดข้อได้เปรียบ ตัวอย่างเช่นเป็นสปอนเซอร์ให้แก่รายการทีวีที่มีผู้ชมมากมายและให้แก่รายการกีฬา ใช้ดาราหนังและคนดังเพื่อทำประชาสัมพันธ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ หรือจัดกิจกรรมการกุศล เป็นต้น เป้าหมายสูงสุดคือดึงดูดผู้บริโภคเข้าหาผลิตภัณฑ์ ดังนั้น จึงจะสร้างยอดขายได้สูงขึ้น
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"สร้างสถานการณ์ลวงเพื่อเพิ่มกำลังให้ตนเอง จะทำให้คุณเฉียบคมเหนือกว่าคู่แข่ง"
"ในกรณีที่มีสินค้าหลากหลายประเภท การใช้ลูกเล่นในการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะเจาะ จะดึงดูดผู้บริโภคให้เข้าหาผลิตภัณฑ์ ฉะนั้นจึงเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้อีกด้วย"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 78 : หาเงินจากผู้ร่ำรวย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 79 : ใช้ดาราหนัง ประชาสัมพันธ์และสร้างชื่อให้แบรนด์สินค้า [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 80 : พยายามจงใจให้ตลาดรออย่างใจจดใจจ่อ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 30 พลิกจากแขกเป็นเจ้าบ้าน
เตียนอุยตายเพราะกลสลับแขกเป็นเจ้าบ้าน
ก้าวเท้าเข้าไปในช่องว่าง จับจุดสำคัญของข้าศึก รุกคืบไปเรื่อย ๆ
"เจาะหาช่องว่าง ก้าวเท้าเข้าไปในอาณาเขตของข้าศึก จับจุดกลไกหลักหรือจุดอันตรายของศัตรู รุกคืบแผ่ขยายอิทธิพลเมื่อถึงเวลาก็เข้าควบคุมสถานการณ์ให้อยู่มือ"
จะทำอย่างไรให้จากเป็นฝ่ายรับกลายเป็นฝ่ายรุก จากที่ไม่คุ้นเคยกับตลาดเป็นคุ้นเคย และเกาะกุมควบคุมสภาพการณ์ในตลาดไว้ให้ได้ เป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการทุกคนจะตั้งคำถาม ในทำนองคล้ายกันที่ผู้ประกอบการทุกคนจะต้องผ่านจุดเริ่มต้นที่เป็นน้องใหม่ในวงการธุรกิจก่อนจะมีประสบการณ์และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจ
เมื่อนำผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวเข้าตลาด ย่อมจะต้องเผชิญการแข่งขันกับยี่ห้ออื่นที่มีในตลาดอยู่แล้ว นักการตลาดต้องใช้ปัจจัยหลากหลาย เพื่อโปรโมทสินค้าและชิงตำแหน่งให้อยู่เหนือกว่าคนอื่น
ผู้ประกอบการจะต้องเค้นไอเดีย หาทางบรรลุเจตนารมณ์ให้ได้ มีแต่ผู้สร้างสรรค์และฉวยคว้าโอกาสได้เท่านั้นที่สามารถก้าวถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว
ข้อที่ 1 กล้าที่จะชิงตำแหน่งเป็นเจ้าบ้าน
ข้อที่ 2 หาพื้นที่ที่จะฟันฝ่าเข้าครองตลาด
ข้อที่ 3 ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการ
ข้อที่ 4 ฉวยคว้าโอกาสเข้ารุก
ข้อที่ 5 สร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในวงการ ผู้ที่เล่นบทบาทเป็นแขกมาเยี่ยมเยือน จะตกเป็นฝ่ายรองรับเสมอ ซึ่งถือว่าล่อแหลมอันตรายมาก เราจึงควรมุ่งเดินหน้าให้บรรลุผลที่ได้ตัดสินใจไว้ จนกระทั่งสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่มือ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 81 : เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดเพื่อเชือดแหวกให้ได้ส่วนแบ่ง [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 82 : ผู้ผลิตโทรทัศน์ชาวญี่ปุ่น ลงมือรุกตลาดทันที [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 83 : ตัดสินแม่นยำย่อมอยู่เหนือกว่า [คลิกดู]
ปิดฟ้าข้ามทะเล
ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว
ยืมดาบฆ่าคน
ใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อย
ฉวยโอกาสไฟไหม้ ปล้นชิง
ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม
ในไม่มี ทำให้มี
ลอบข้ามเฉินชัง
อยู่อีกฟากฝั่งมองดูไพ่
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ต้นหลี่ตามแทนต้นท้อ
จูงแพะติดมือ
ตีหญ้าให้งูตื่น
ยืมซากร่างคืนวิญญาณ
ล่อเสือออกจากภูเขา
จะจับแต่แสร้งปล่อย
โยนอิฐล่อหยก
จับโจรให้จับตัวหัวหน้า
ดึงฟืนใต้กระทะ
จับปลาในน้ำขุ่น
จักจั่นทองลอกคราบ
ปิดประตูจับโจร
คบไกล โจมตีใกล้
ยืมเส้นทางโจมตีเมืองกว๋อ
ขโมยคานเปลี่ยนเสา
ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย
แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า
ขึ้นบ้านดึงบันได
ออกดอกบนต้น
พลิกจากแขกเป็นเจ้าบ้าน
สาวงาม
เมืองว่างเปล่า
ซ้อนกล
ทรมานตนเอง
ลูกไข่
หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
< ย้อนกลับ หน้าหลัก