Chaos Stratagems
จุดสำคัญอยู่ที่พัวพันปนเปไปกับศัตรูเพื่อจู่โจมในขณะที่ไม่รู้ตัว ล่อให้ศัตรูหลงกลเพื่อคอยให้ได้โอกาสที่มีค่า เอาชนะได้ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย
กลยุทธ์ที่ 19 ดึงฟืนใต้กระทะ
เตงงาย โดนกลถอนฟืนใต้กระทะของ เกียงอุย
ไม่ปะทะกำลังของข้าศึกโดยตรง แต่บั่นทอนอำนาจของข้าศึก
"สองกองกำลังเผชิญหน้ากัน ไม่ต่อต้านกำลังที่เข้มแข็งของข้าศึกโดยตรง แต่ให้บั่นทอนความเชื่อมั่นและอำนาจของศัตรู บั่นทอนขวัญและกำลังใจของข้าศึกในการรบ โจมตีจุดอ่อนของศัตรู"
หลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรงกับกำลังหลักของศัตรู ให้ลงมือลับหลังหรือโจมตีด้านข้าง และตัดขาดความช่วยเหลือจากกำลังหนุนของศัตรู จึงจะบรรลุสู่ชัยชนะ
กลยุทธ์ "ดึงฟืนใต้กระทะ" เน้นให้แก้ไขปัญหาโดยวิธีทางอ้อม เมื่อเปรียบเทียบกับกลยุทธ์ที่ 18 แล้ว "จับโจรให้จับตัวหัวหน้า" จะเข้าชนเพื่อจัดการปัญหาโดยตรง กลยุทธ์ทั้งสองนี้มีความแตกต่าง แต่ก็มีส่วนที่คล้ายคลึงกันร่วมอยู่ด้วย
การปรับปรุงผลิตภัณฑ์เป็นหนทางที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดและพัฒนาได้ในระยะยาว ต้องลงมือในจุดที่เป็นรากฐาน ไม่ใช่ทำเพียงผักชีโรยหน้า ต้องทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนครอบครองคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากผู้อื่น
คุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นรากฐานให้สินค้ายืนหยัดอยู่ได้ เป็นสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจได้รับชื่อเสียงและความไว้วางใจ เป็นทรัพย์สินขุมใหญ่ที่สุดในการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่ธุรกิจ ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาและจัดการให้อยู่มือ จะชนะใจและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"เมื่อจัดการกับตัวปัญหาต้องจับตัวปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจให้ได้และหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรง"
"ในการแข่งขันใช้ความอ่อนเข้าควบคุม บั่นทอนคู่ต่อสู้จนต้องยอมถอย แล้วปัญหาก็จะสลายไป"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 52 : เปลี่ยนสูตรเพื่อยึดครองตลาด [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 53 : ผ้าอ้อมชิ้นน้อยสร้างรายได้ให้สูงค่า [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 54 : ลดต้นทุนการผลิตเพื่อพิชิตคู่แข่ง [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 55 : ปรับตัวให้เข้ากับตลาดด้วยดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 20 จับปลาในน้ำขุ่น
อ้วนเสี้ยว กวนน้ำจับปลาหลอก กองซุนจ้าน
ถือโอกาสที่ข้าศึกวุ่นวาย ใช้ประโยชน์ขณะที่ศัตรูยังไม่ทันมีสติหรือความคิดใด โน้มน้าวให้คล้อยตามฝ่ายเรา
"ใช้ประโยชน์ในขณะที่ข้าศึกเกิดความวุ่นวายภายใน พละกำลังอ่อนแอและแล้งไร้ทิศทาง โน้มน้าวให้เชื่อตามความคิดของเรา เพื่อบรรลุเป้าหมายในการศึก"
ปลาแยกแยะทิศทางได้ไม่ชัดเจนในน้ำขุ่น ในการแข่งขันนั้นฝ่ายด้อยกว่ามักจะอึกอักลังเลจึงเป็นโอกาสให้เราลงมือได้ ในสภาวการณ์ส่วนใหญ่ เราต้องสร้างโอกาสเช่นนี้ขึ้นเอง
การแข่งขันที่ดุเดือดอาจเป็นเรื่องที่โหดร้ายและเรื่องราวอาจกลายเป็นวุ่นวายสับสน เมื่อเผชิญ "น้ำขุ่น" ผู้ประกอบการต้องมีสติเยือกเย็น วิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบและโจมตีในเวลาอันเหมาะสม
ในตลาดธุรกิจแฝงไว้ด้วยพลังหลากหลายที่แตกต่าง ข้อมูลข่าวสารเป็นเหมือนกับดาบสองคม เมื่อสถานการณ์วุ่นวายต้องเกาะกุมโอกาสให้แม่นยำบวกกับความกล้าหาญและความเข้าใจเหตุการณ์ได้ลึกซึ้ง ให้ลงมืออย่างฉับพลันแล้วจะเอาชนะได้ ท่ามกลางความโกลาหล
เมื่อจะใช้กลยุทธ์ "จับปลาในน้ำขุ่น" ต้องมีปัญญาและสงบเยือกเย็น อย่าปล่อยให้ผู้อื่นจูงจมูกเรา อย่าปล่อยให้ตัวเองขาดสติ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย เพื่อป้องกันไม่ให้คู่แข่งลอบเจาะช่องว่างเข้ามาถึงตัว
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ขณะที่เรามองหาชัยชนะ ต้องคอยระวังศัตรูที่พยายามจะลากเราเข้าพันตู"
"ในความวุ่นวายนั้นให้เรากลายเป็นเป้าหมายโจมตีแทน ความอดทนและความกล้าหาญสามารถช่วยให้เรารับมือกับตัวก่อปัญหาได้"
"ลงลึกในทุกประเด็นทีละข้อและไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มีโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นเด็ดขาด"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 56 : แม้บริษัทขนาดเล็กก็ชนะได้ในความวุ่นวาย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 57 : บุกเบิกเส้นทางใหม่ ท่ามกลางความวุ่นวาย [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 21 จักจั่นทองลองคราบ
จักจั่นลอกคราบ โดย ขงเบ้ง
รักษาสภาพไว้ ทำให้สภาพการณ์สมบูรณ์ เลี่ยงเพื่อสลาย
"รักษาสภาพเดิมของฐานกำลังและฐานที่มั่น สร้างสภาพการณ์ตั้งรับที่มั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้ศัตรูไม่กล้าผลีผลามเข้าตี ขณะที่ศัตรูงงงวยสับสน เคลื่อนย้ายกำลังหลักอย่างซ่อนเร้น"
จักจั่นเมื่อลอกคราบแล้วบินจากไปยังทิ้งคราบของตัวไว้บนกิ่งไม้ กลยุทธ์นี้คือการปลอมแปลงและปิดบังจุดประสงค์ที่แท้จริง ความหมายเดิมคือการเหลือคราบให้ตัวจริงจากไป แต่ในธุรกิจจะเป็นการทิ้งคราบเพื่อรักษาสิ่งสำคัญไว้ อย่างเช่นการเปลี่ยนโฉมหีบห่อของผลิตภัณฑ์ที่ขายไม่ได้ อาจเปลี่ยนให้กลับกลายเป็นของที่คนต้องการมากมาย จึงเป็นความแยบยลของการใช้กลยุทธ์ "จักจั่นทองลอกคราบ"
ถ้านักธุรกิจอยู่ในสภาพจำเจแทนที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขของตลาด ก็จะถูกลบเลือนหายไปจากการแข่งขัน แต่ถ้าเราป่าวประกาศแผนการอย่างครึกโครม คู่ต่อสู้ก็จะสร้างอุปสรรคขัดขวาง
กลยุทธ์นี้ต้องการให้เรารักษาตำแหน่งที่มั่น ณ ปัจจุบัน ขณะที่ดำเนินแผนให้คืบหน้าไปอย่างลับ ๆ พิชิตชัยชนะด้วยการเคลื่อนไหวฉับพลันไม่ทันตั้งตัว
กระแสใต้น้ำถาโถมรุนแรง แต่ทุกสิ่งบนผิวน้ำกลับสงบนิ่ง นี่เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ "จักจั่นทองลอกคราบ"
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"การสร้างสถานการณ์แม้เป็นสิ่งสำคัญ แต่เราก็ต้องรู้จักหาทางหนีทีไล่ไว้ด้วย ครั้นคู่แข่งหลงกลและเป้าหมายบรรลุแล้วก็ควรวางมือ สงวนพลังไว้เพื่อหาโอกาสก้าวหน้าในด้านอื่น ๆ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 58 : สร้างโรงงานเพื่อหลบหลีกกำแพงภาษี [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 59 : เปลี่ยนสถานที่การผลิตเพื่อกลับมาครองตลาด [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 22 ปิดประตูจับโจร
ลิบอง ผู้ปิดประตูจับโจร
ศัตรูอ่อนด้วยกว่าให้ล้อมไว้ ทำการแยกสลาย
"ข้าศึกที่อ่อนด้อย ควรโอบล้อมแล้วทำลาย ศัตรูเล็กที่กำลังกระจัดกระจาย แม้พละกำลังน้อยแต่ก็ดำเนินการได้อิสระ ลึกลับมีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าทัพใหญ่ การปิดล้อมไว้จึงจะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด"
"โจร" ในที่นี้หมายถึงองค์ประกอบเล็ก ๆ ซึ่งเคลื่อนที่เร็วและยืดหยุ่นสูง ตรวจสอบได้ยากเพราะการเคลื่อนที่ของมันไม่มีรูปแบบแน่นอน โดยทั่วไปองค์ประกอบเหล่านี้จะอยู่อย่างกระจัดกระจายและมีจำนวนไม่มาก แต่สามารถส่งอิทธิพลใหญ่หลวง เพื่อจำกัดอิทธิพลขององค์ประกอบเหล่านี้ ต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างของมัน ตัดเส้นทางหลบหนีแล้วค่อยทำลาย
"ปิดประตูจับโจร" สามารถใช้ในกิจกรรมทางธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ดังเช่นผู้ประกอบการต้องเสนอสินค้าและบริการที่สมบูรณ์และคุณภาพดีแก่ผู้บริโภค เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคมองหาคนอื่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของตนได้ แม้แต่คู่ต่อสู้ที่อ่อนด้อย เรายังต้องโจมตีต่อเนื่อง อย่ายอมใจอ่อน ยึดความอ่อนแอของฝ่ายตรงข้ามไว้และจู่โจมเข้าไป เป็นวิธีล้มคู่ต่อสู้ที่ได้ผล
เมื่อใช้กลยุทธ์ "ปิดประตูจับโจร" นี้ เราควรจับตามองสถานการณ์ทั้งหมด แล้วเลือกเวลาและสถานที่เพื่อ "ปิดประตู" อย่างเหมาะสม ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อภาวการณ์เอื้ออำนวย แต่ถึงอย่างไรก็ควรจะเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสมด้วย
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"เมื่อเราควบคุมสถานการณ์ได้ก็สามารถทำลายพละกำลังที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่าได้"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 60 : ดึงดูดลูกค้าด้วยบริการพิเศษ [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 61 : สร้างธุรกิจให้หลากหลายเพื่อรักษาลูกค้า [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 62 : โอบล้อมคู่ต่อสู้เพื่อตัดหนทางหนี [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 63 : ดึงดูดใจลูกค้าด้วยคูปองและของแถมฟรี [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 23 คบไกลโจมตีใกล้
เล่าปี่ ช่วย ซุนกวน ด้วยอุบายคบไกลตีใกล้
เมื่อชัยภูมิมีข้อจำกัด โจมตีใกล้จะได้ประโยชน์กว่า ไม่ควรไปโจมตีไกล
"เมื่อเป้าหมายทางทหารถูกจำกัดด้วยชัยภูมิ การโจมตีข้าศึกที่อยู่ใกล้จะได้ประโยชน์มากกว่า ไม่ควรข้ามศัตรูใกล้ไปโจมตีศัตรูไกล ศัตรูไกลสามารถใช้วิธีเป็นพันธมิตรกับพวกเขาชั่วคราวก่อน เพื่อจะได้ใช้วิธีแยกกันตีให้แตก"
"คบไกลโจมตีใกล้" เป็นกลยุทธ์การแยกสลายและป้องกันไม่ให้ศัตรูร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน เป็นการทำลายศัตรูทีละคน "คบไกล" ไม่ใช่สหายที่มั่นคง แต่เป็นเป้าหมายหลักเพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างศัตรูมากเกินไปในคราวเดียวและเป็นการทำให้คู่ต่อสู้ที่อยู่ใกล้ต้องขาดพันธมิตร
ในแง่การบริหารที่ต้องใช้คนให้เหมาะสมกับงานเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแยกมิตรภาพกับธุรกิจให้ชัดเจน กำหนดขอบเขตความสัมพันธ์ "ไกล" และ "ใกล้" ให้เหมาะระหว่างมิตรสหาย ครอบครัว และคู่ค้าทางธุรกิจ ส่วนเพื่อนสนิทและญาติมิตรอาจช่วยเรื่องธุรกิจไม่ได้ ดังนั้น อย่าให้ตำแหน่งหน้าที่โดยพิจารณาจากความสนิทสนม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของธุรกิจ
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"เมื่อเกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์กับคู่แข่ง เราต้องตัดสินใจว่าควรจะจัดการกับคู่แข่งรายใดเป็นอันดับแรก และควรจะผูกมิตรกับใคร"
"ตลาดธุรกิจผันผวนอยู่เสมอ การปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นกฏที่สำคัญ"
"การร่วมมือและการแข่งขันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันในสงครามธุรกิจ เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดที่ต้องกำหนดได้ว่าใครคือหุ้นส่วน และใครคือคู่แข่ง"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 64 : ความร่วมมือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 65 : เปลี่ยนสินค้าท้องถิ่นให้เป็นของมีค่าในแดนไกล [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 24 ยืมเส้นทางโจมตีเมืองกว๋อ
จิวยี่ โดนยืมทางพรางกล
อยู่ท่ามกลางสองเมืองใหญ่ เมื่อฝ่ายศัตรูคุกคามให้ยอมแพ้ ฝ่ายเราให้แสร้งไปช่วยเหลือ
"เมืองหนึ่งอยู่ท่ามกลางฝ่ายข้าศึกและฝ่ายเรา เมื่อฝ่ายศัตรูคุกคามเมืองนั้น ฝ่ายเราให้รีบยกทัพไปช่วยเหลือเพื่อถือโอกาสขยายกำลังเข้าไป เพื่อในที่สุดจะบรรลุเป้าหมายเข้าควบคุมและยึดครองศัตรู"
จุดสำคัญของกลยุทธ์นี้คือการเลือกช่องทางที่เหมาะสมมาแก้ปัญหา เมื่อกำหนดเป้าหมายโจมตีแน่นอนแล้วยังไม่อาจเข้ายึดชิงได้โดยตรง แต่จำเป็นต้องขจัดอุปสรรคที่อยู่รอบเป้าหมายเสียก่อน วิธีที่ฉลาดที่สุดคือเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นพลังขับเคลื่อน
เมื่อคู่แข่งกำลังเผชิญความลำบาก เราสามารถใช้ช่องทางที่เหมาะสมควบคุมฝ่ายตรงข้ามไว้หรือเข้าซื้อกิจการได้ ไม่ควรให้มีช่องทางการขายอยู่เพียงช่องทางเดียว ควรคงไว้หลาย ๆ ทางให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และจัดลำดับเข้าไว้ในแผนการ เพื่อใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย พัฒนาธุรกิจให้รอบด้านทั้งผสานรวมและจัดการช่องทางพัฒนาที่แตกต่างกันนั้นให้เข้ากันอย่างเป็นระบบ
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ต้องเลือกเส้นทางและรูปแบบการโจมตีอย่างรอบคอบ"
"พลิกแพลงใช้กลวิธีให้แตกต่างและยืดหยุ่นในการโฆษณาและโปรโมทสินค้า"
"จงเก็บเกี่ยวให้ได้ผลประโยชน์ แต่ถ้าไม่มีผลประโยชน์ก็สามารถแสวงหาชื่อเสียง"
"องค์กรธุรกิจควรพยายามทำทุกวิธีการและทุกวิถีทางที่จะไขว่คว้าชัยชนะ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดและเกิดการพัฒนา"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 66 : ปิดการขายได้ด้วยช่องทางอันหลากหลาย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 67 : สร้างข้อได้เปรียบจากแบรนด์สินค้า [คลิกดู]
ปิดฟ้าข้ามทะเล
ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว
ยืมดาบฆ่าคน
ใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อย
ฉวยโอกาสไฟไหม้ ปล้นชิง
ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม
ในไม่มี ทำให้มี
ลอบข้ามเฉินชัง
อยู่อีกฟากฝั่งมองดูไพ่
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ต้นหลี่ตามแทนต้นท้อ
จูงแพะติดมือ
ตีหญ้าให้งูตื่น
ยืมซากร่างคืนวิญญาณ
ล่อเสือออกจากภูเขา
จะจับแต่แสร้งปล่อย
โยนอิฐล่อหยก
จับโจรให้จับตัวหัวหน้า
ดึงฟืนใต้กระทะ
จับปลาในน้ำขุ่น
จักจั่นทองลอกคราบ
ปิดประตูจับโจร
คบไกล โจมตีใกล้
ยืมเส้นทางโจมตีเมืองกว๋อ
ขโมยคานเปลี่ยนเสา
ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย
แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า
ขึ้นบ้านดึงบันได
ออกดอกบนต้น
พลิกจากแขกเป็นเจ้าบ้าน
สาวงาม
เมืองว่างเปล่า
ซ้อนกล
ทรมานตนเอง
ลูกไข่
หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
< ย้อนกลับ หน้าหลัก