Defeat Stratagems
ในขณะที่ข้าศึกเข้มแข็ง ฝ่ายเราอ่อนแอ ให้ใช้วิธีการที่ไม่เป็นไปตามธรรมเนียบปฏิบัติเพื่อพลิกสถานการณ์
กลยุทธ์ที่ 31 สาวงาม
กลสาวงาม เตียวเสี้ยน
กองทหารที่เข้มแข็งให้โจมตีที่แม่ทัพ แม่ทัพที่ฉลาดให้โจมตีที่อารมณ์ความรัก เมื่อแม่ทัพอ่อนแอ กองทหารจะอ่อนแอตามไปด้วย
"เมื่อเผชิญข้าศึกที่มีกำลังกล้าแข็งต้องคิดหาวิธีสยบแม่ทัพของพวกเขา กับแม่ทัพที่ฉลาดหลักแหลมควรหาวิะีสลายจิตฮึกหาญในการทำศึกเปลี่ยนแปลงจิตมุ่งมั่นของเขา เมื่อความมุ่งมั่นในการรบของแม่ทัพเสื่อมถอย กำลังขวัญของทหารจะเสื่อมถอยลงด้วย ข้าศึกก็จะไม่มีจิตใจอยากทำสงคราม ฝ่ายเราจะสามารถรักษากำลังเอาไว้ได้"
ในการแข่งขันธุรกิจยุคใหม่ ผู้ประกอบการมักใช้กับดัก "ความงาม" เป็นแนวทางใหม่ เพื่อขยายวงการใช้ "กลยุทธ์สาวงาม" ในการดึงดูดความสนใจของผู้คนเข้าหาผลิตภัณฑ์และบริการ
นับจากหลุมพรางของความงาม พิสูจน์ให้เห็นประสิทธิภาพของมันอันเนื่องด้วยความรักสวยรักงามตามธรรมชาติของมนุษย์ ความสวยงามจึงถูกนำมาใช้ส่งเสริมการผลิต การขาย และการบริการต่อผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้จึงสามารถสร้างคุณค่าที่ดีทางการตลาดให้แก่ธุรกิจได้
ถ้าเรามุ่งแต่จะดำเนินธุรกิจเพื่อเงินอย่างเดียวก็มักจะได้ผลลัพธ์ตรงข้ามกับสิ่งที่หวัง มนุษย์ควรเป็นเจ้านายของเงินตราต่อเมื่อเรารู้จักเข้าใจถึงจิตใจมนุษย์แล้วเท่านั้น เราจึงจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สนองตอบต่อจิตใจของตน แล้วเราถึงจะทำเงินได้ดังคาดหมาย
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ใช้ไม้แข็งนั้น ยากที่จะสยบฝ่ายศัตรู ให้ใช้กลเม็ดแบบนุ่มนวลชวนใจ จะสามารถสลายวิญญาณของการต่อสู้ให้อ่อนแอลง"
"ถ้านักธุรกิจเข้าใจว่าความสวยงามเกี่ยวพันถึงสิ่งใด และมุ่งพัฒนาความงามนั้นให้เกิดประโยชน์ ก็จะสามารถมัดใจผู้บริโภคไว้ได้ และไม่มีเหตุอันใดให้ต้องกังวล"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 84 : ส่งเสริมการขายด้วยการจัดโชว์สินค้า [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 85 : ปรับปรุงหีบห่อ ช่วยให้ขายฝืดกลายเป็นค้าคล่อง [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 86 : แอร์โฮสเตสสาวสวยเป็นที่เลื่องลือทั่วโลก [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 32 เมืองว่างเปล่า
เพราะ ม้าเจ๊ก ขงเบ้ง จึงต้องใช้กลปิดเมือง
ผู้ที่ว่างเปล่าก็ทำให้ดูว่างเปล่า ผู้ที่สงสัยก็จะยิ่งสงสัยในระหว่างความแข็งกับความอ่อน แปลกแล้วยิ่งทำให้แปลก
"ในสภาพกำลังทหารแท้จริงแล้วอ่อนด้อย แสร้งทำเป็นไม่สนใจป้องกัน ทำให้ข้าศึกสงสัยยากคาดเดา ในภาวการณ์ที่ข้าศึกเข้มแข็งแต่ฝ่ายเราอ่อนแอ การใช้กลยุทธ์การทหารเช่นนี้จะยิ่งให้ความแยบยล"
"กลยุทธ์เมืองว่างเปล่า" เป็นกลวิธีทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง มักจะใช้ในการศึกที่ต้องเผชิญศัตรูซึ่งมีพลกำลังเหนือกว่า ผู้ด้อยกว่าจะไม่ใช้พลกำลังของกองทัพเข้าหาญหัก แต่จะศึกษาจิตใจของศัตรูก่อนใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ทางจิตวิทยาเพื่อเอาชนะ
เป็นธรรมดาที่ผู้คนต้องการซ่อนจุดบกพร่องของตนเอง ซึ่งจะยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อต้องผจญศัตรูที่ต้องหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกโจมตีในจุดตาย แต่บางทีการเผยจุดอ่อนหรือจดบกพร่องอย่างจงใจก็ทำให้ศัตรูฉงนสงสัยและให้ผลในทางตรงข้ามที่น่าพอใจ
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ๆ ให้ใช้กลยุทธ์เมืองว่างเปล่าอย่างสุขุมเยือกเย็น โดยให้ภาพลวงว่าขาดแคลนขุมกำลัง จริง ๆ แล้ว ผู้คนในองค์กรจะรวมกำลังต่อสู้เคียงข้างกันและกัน เมื่อคู่ต่อสู้งุนงงและลังเล จะเคลื่อนไหวต่อ ก็ถือว่าเราเปลี่ยนท่าทีที่เสียเปรียบให้เป็นประโยชน์ได้แล้ว
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"เมื่อฝ่ายหนึ่งขาดแคลนกำลังก็ให้แสดงออกว่าขาดกำลังพลจริง ๆ เพื่อให้ศัตรูสงสัย การใช้กลยุทธ์อันห้าวหาญนี้ เผชิญหน้าศัตรูที่เข้มแข็ง จะให้ผลที่น่าทึ่งเกินคาด"
"ความสำเร็จขององค์กรหนึ่ง บ่อยครั้งที่มักจะเกี่ยวพันใกล้ชิดกับปัญญาและความกล้าของผู้นำ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 87 : ขายแต่สินค้าใหม่ล่าสุด [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 88 : หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคู่แข่ง [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 33 ซ้อนกล
จิวยี่ ใช้กลยุทธ์ไส้ศึก
การสืบราชการลับเป็นวิธีการล่อลวงข้าศึกที่ดีที่สุด ใช้สายลับของศัตรูทำงานให้ฝ่ายเราจะสามารถช่วงชิงชัยชนะได้โดยไม่ต้องสูญเสีย
การสร้างเหตุให้ศัตรูต่อสู้ภายในกันเองเป็นกลยุทธ์ที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งใช้ไส้ศึกของศัตรูทำงานให้เรา โดยเราไม่ต้องสูญเสียกำลังและเป็นฝ่ายชิงลงมือโจมตีศัตรูได้ก่อนด้วย
กลยุทธ์ซ้อนกลนี้แฝงความหมายไว้สองด้าน หนึ่งคือใช้ไส้ศึกของศัตรู สองคือทำให้ศัตรูขัดแย้งบาดหมางกันเอง หัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือการใช้ข่าวสารให้เป็นประโยชน์
ในการแก่งแย่งส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบัน เราอาจจะต้องมองในอีกมุมหนึ่งว่าเป็นสงครามข่าวสาร เพราะในการรักษาตำแหน่งที่ได้เปรียบ ผู้ประกอบการก็ไม่แตกต่างจากนักวางกลยุทธ์ที่ต้องเกาะติดรวบรวมข่าวสารของคู่แข่งใกล้เคียงเพื่อให้ "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความลับของการดำเนินงานของเราไว้ด้วย
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"กลยุทธ์ซ้อนกล อาจจะหมายถึงเคลื่อนรุกโดยไม่คาดหมายที่ผิดไปจากเดิม และสวนทางกับวิธีการปกติ"
กรณีศึกษาที่ 89 : รวบรวมประสบการณ์จากคนในวงการ เพื่อคิดค้นหนทางใหม่
กรณีศึกษาที่ 90 : ใส่ใจสร้างพลังทางการตลาด เพื่อสร้างยอดขายที่โดดเด่น
กรณีศึกษาที่ 91 : เกาะติดข่าวสารการตลาดและชิงโอกาสทางธุรกิจได้ก่อน
กลยุทธ์ที่ 34 ทรมานตนเอง
ทุกข์กาย แบบ อุยกาย
คนปกติไม่ทำร้ายตัวเอง แสดงว่าเมื่อถูกทำร้ายก็ย่อมเป็นเรื่องจริง เท็จเป็นจริง จริงเป็นเท็จ จึงดำเนินแผนยุให้แตกแยกได้
"ผู้คนโดยทั่วไปจะไม่ทำร้ายตัวเอง ดังนั้น เมื่อถูกทำร้ายย่อมน่าจะเป็นเรื่องจริง ถ้าฝ่ายเราใช้เท็จทำให้เหมือนจริง ทำให้ข้าศึกเชื่อโดยไม่สงสัย แผนยุให้แตกแยกจึงจะสัมฤทธิ์ผล จับจุดแนวคิดที่เคยชินของศัตรูมาใช้ประโยชน์เพื่อช่วงชิงชัยชนะ"
"กลยุทธ์ทรมานตนเอง" เดิมหมายถึงการจงใจทำร้ายตัวเอง เพื่อทำให้ศัตรูสับสนและไว้วางใจ จึงบรรลุเป้าหมายดังประสงค์
ในแง่ธุรกิจ กลยุทธ์นี้อาจจะแปลความได้ว่า เป็นความพยายามที่ตระหนักรู้และสำเหนียกถึงความเข้มงวดกับตนเองและมุ่งมั่นกับสไตล์การบริหาร
ให้กำหนดกฎระเบียบการบริหารอย่างเข้มงวดและบังคับใช้ในระบบที่มีพร้อมทั้งการให้รางวัลและบทลงโทษ ไม่มีการผ่อนปรนใด ๆ แก่พนักงานที่ละเมิดกฎ
ต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับคุณภาพของสินค้าและบริการหลังการขายด้วย การควบคุมคุณภาพต้องกระทำให้ต่อเนื่อง สิ่งที่จะหยุดยั้งและขัดขวางการกระทำนี้ต้องถูกจัดการ อีกทั้งต้องฝึกอบรมด้านเทคนิคอย่างกวดขันเพื่อเพิ่มผลผลิต นอกจากนี้ ต้องนำมาทดสอบด้วยวิธีการที่หลากหลายเพื่อรักษาระดับคุณภาพสินค้าให้สูงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"ผู้จัดการหรือผู้ประกอบการมักจะคาดหวังต่อตัวเองและต่อพนักงานไว้สูง เขาต้องเข้มงวดกับตนเองก่อน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พนักงาน เพื่อกระทำเช่นเดียวกัน ซึ่งจิตวิญญาณของการทำงานหนักและการทำงานเป็นทีมคือสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจน"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 92 : มุ่งมั่นต่อหลักการบริหารอย่างเคร่งครัด [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 93 : ใช้การขายในราคาต้นทุนให้ประสบผลสำเร็จ [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 35 ลูกโซ่
โจโฉ ใช้กลยุทธ์ลูกโซ่รบอ้วนเสี้ยว
ข้าศึกกำลังมาก อย่าได้ต่อสู้ ทำให้ข้าศึกเหนื่อยแรงไปเองเพื่อทำลายกำลังของศัตรู
"กำลังทหารของทัพข้าศึกเข้มแข็ง อย่าได้แข็งขืนต่อต้าน ควรใช้กลยุทธ์ทำให้ข้าศึกคานอำนาจกันเอง เพื่อใช้โอกาสบั่นทอนกำลังของศัตรู ใช้หลายกลยุทธ์พร้อมกัน ประสมประสานซึ่งกันและกัน จึงจะชนะศัตรูได้"
หลายกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกันเหมือนห่วงโซ่จะเสริมซึ่งกันและกัน และนำพาเราไปถึงจุดสุดท้ายที่ปรารถนา
คนขี้โกงและนักต้มตุ๋นจะตื่นตัวตลอดเพราะไม่ต้องการถูกติดตาม นักธุรกิจต้องไม่มองแค่ระยะสั้นหรือผลประโยชน์ตรงหน้า แต่ต้องมองให้ไกลไปให้ถึงการขยายเครือข่ายธุรกิจและเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว
ก่อนจะออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เข้าตลาด นักธุรกิจควรเตรียมการเรื่องที่จำเป็นและเผื่อไว้รับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีการใช้กลยุทธ์แบบหลายแง่มุมและหลายทางเลือกจะทำให้มั่นใจได้ถึงแผนการดำเนินธุรกิจที่ราบรื่น ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาการเชื่อมโยงกันและการประสานกันของกลยุทธ์ที่เลือกใช้ด้วย
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"จงใช้สไตล์การบริหารที่แตกต่าง หลากหลาย และเชื่อมโยงกัน เพื่อลับคมการแข่งขันทางธุรกิจ และเข้าใจความปรารถนาที่จะขยายกิจการ นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นวิธีที่นำกลยุทธ์มาใช้พัฒนาธุรกิจ"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 94 : ควบคุมตลาดผู้จำหน่ายอย่างแยบยล [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 95 : ใช้ประโยชน์เต็มที่จากทุกส่วนงาน [คลิกดู]
กลยุทธ์ที่ 36 หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
ขงเบ้ง หนีเอาตัวรอดจาก จิวยี่
ถอยทั้งกองทัพเพื่อหลีกศัตรู ไม่ถือว่าผิดปกติ
"ล่าถอยทั้งกองทัพ หลบหลีกศัตรูที่เข้มแข็งเพื่อรอคอยโอกาส ใช้การถอยก่อนเพื่อรุกภายหลัง สอดคล้องกับกฏทางการทหาร"
กลยุทธ์หนีไม่ได้เยี่ยมยอดเหนือกว่ากลยุทธ์อีก 35 ข้อ แต่เป็นกลยุทธ์ให้เราถอยเมื่อตกอยู่ในสภาพการณ์ที่ไม่เป็นผลดีและเราไม่มีตัวช่วย ฉะนั้น การถอยหนีจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด รับรู้ไว้ว่าการหนีมิได้หมายถึงการวิ่งหนีอย่างหมดหวัง แต่เป็นการมองหาทางเลือกอื่นที่สถานการณ์จะทำให้เราได้เปรียบ
ในแง่ธุรกิจหมายถึงการยึดอยู่กับเป้าหมายและสุขุมเยือกเย็น ถ้าเราใช้ "การถอยหนี" จะต้องไม่ก้าวผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นสนามธุรกิจหรือสนามรบ ใครก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะได้ชัยชนะตลอดเวลา ถ้าชนะได้ก็สู้ ถ้าชนะไม่ได้ก็หนี เป็นยุทธวิธีทั่วไปทางการทหาร การผลักดันให้ฝืนกำลังสู้ต่อบ่อยครั้งที่จะได้ไม่คุ้มเสีย รู้ว่าเมื่อไรควรหนีเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ถ้าหนีเร็วไปอาจจะเสียผลประโยชน์ ถ้าหนีช้าไปก็อาจจะเผชิญผลลัพธ์ที่เลวร้าย
ผู้ประกอบการควรจัดตั้งเครือข่ายข้อมูลและข่าวสารสำหรับการวิเคราะห์ภูมิหลัง ซึ่งจะช่วยให้เราตอบสนองตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
"การหนีไม่ใช่การกระทำที่ขลาดเขลา ไม่ใช่วิ่งหนีเอาตัวรอด เมื่อกิจการอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องกล้าตัดสินใจฉับพลันและตอบรับด้วยการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ และเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของการลงทุน เมื่อนั้นธุรกิจจึงจะฟื้นคืนได้"
กรณีศึกษาทางธุรกิจ
กรณีศึกษาที่ 96 : จำเป็นที่ต้องชิงเป็นฝ่ายถอย [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 97 : ถอยหนึ่งก้าวเพื่อมองภาพกว้างขึ้น [คลิกดู]
กรณีศึกษาที่ 98 : รุกและถอยโดยการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย [คลิกดู]
ปิดฟ้าข้ามทะเล
ล้อมเมืองเว่ยช่วยเมืองจ้าว
ยืมดาบฆ่าคน
ใช้สบายรอรับเหน็ดเหนื่อย
ฉวยโอกาสไฟไหม้ ปล้นชิง
ส่งเสียงบูรพา โจมตีประจิม
ในไม่มี ทำให้มี
ลอบข้ามเฉินชัง
อยู่อีกฟากฝั่งมองดูไพ่
ซ่อนดาบในรอยยิ้ม
ต้นหลี่ตามแทนต้นท้อ
จูงแพะติดมือ
ตีหญ้าให้งูตื่น
ยืมซากร่างคืนวิญญาณ
ล่อเสือออกจากภูเขา
จะจับแต่แสร้งปล่อย
โยนอิฐล่อหยก
จับโจรให้จับตัวหัวหน้า
ดึงฟืนใต้กระทะ
จับปลาในน้ำขุ่น
จักจั่นทองลอกคราบ
ปิดประตูจับโจร
คบไกล โจมตีใกล้
ยืมเส้นทางโจมตีเมืองกว๋อ
ขโมยคานเปลี่ยนเสา
ชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮ๋วย
แสร้งทำบ๊องแต่ไม่บ้า
ขึ้นบ้านดึงบันได
ออกดอกบนต้น
พลิกจากแขกเป็นเจ้าบ้าน
สาวงาม
เมืองว่างเปล่า
ซ้อนกล
ทรมานตนเอง
ลูกไข่
หนีคือสุดยอดกลยุทธ์
< ย้อนกลับ หน้าหลัก